ร่ายยาวข้อดี ข้อเสียของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี องค์ความรู้จาก ศ.เกียรติคุณ ดร.อำนาจ สุวรรณฤทธิ์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดต่อมาหลายตอน…วันนี้ถึงบทสรุปกันเสียที
เป็นตามวลีอมตะ…ในโลกนี้ ไม่มีอะไรดีไปหมด หรือเลวแย่เสียจนหาข้อดีไม่ได้ซะเลย…ทุกอย่างมีทั้งข้อดี ข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น
ปุ๋ยอินทรีย์มีข้อดี แม้จะมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมครบถ้วน ช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้ร่วนซุย รากพืชสามารถชอนไชดูดซึมอาหารได้ดี
แต่ธาตุอาหารหลากชนิดมีในปริมาณน้อย พืชดูดไปใช้ประโยชน์ทันทีไม่ได้ ต้องรอการ ย่อยสลายที่ใช้เวลานับเดือน จะให้พืชได้ธาตุอาหารเพียงพอต้องใช้ในปริมาณ มากกว่าปุ๋ยเคมี 8-70 เท่า ถึงจะเท่า กับปุ๋ยเคมี 1 เท่า
ส่วนปุ๋ยเคมี ถึงจะมีธาตุอาหารหลัก N-P-K ในปริมาณมาก พืชสามารถดูดนำไปใช้ประโยชน์เลี้ยงลำต้น ใบ ดอก ผลได้ทันที ไม่ต้องรอการย่อยสลาย และยังสามารถใส่ปุ๋ยปรับแต่งบังคับพืชให้สีสัน รสชาติให้เป็นไปตามที่ต้องการได้
แต่กระนั้นมีข้อด้อยในเรื่องธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมไม่มีเลย และถ้าไปเจอดินไม่ดี ไม่มีอินทรียวัตถุ หรือปุ๋ยอินทรีย์มาช่วยให้ดินร่วนซุย รากพืชจะดูดอาหารได้ดี ปุ๋ยเคมีที่ว่ามีธาตุอาหารหลักเข้มข้น ใส่ไป มีแต่เปลืองเงิน พืชดูดปุ๋ยได้ไม่เต็มที่
ยิ่งประเภททำเกษตรกรแบบไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าดินของตัวเองมีความเป็นกรดเป็นด่าง ในดินมีธาตุอาหารแต่ละตัวอยู่ในดินมากแค่ไหน ใส่ปุ๋ยเคมีลงไปทำให้มีธาตุอาหารตัวนั้นๆมีมากเกิน ส่งผลเสียหนักเข้าไปอีก
คลิก: http://www.babyloss.org/?p=227
ฉะนั้นหนทางออกที่ดีที่สุด ก่อนอื่นต้องรู้จักตัวเอง รู้จักดินที่ทำกิน พร้อมกับยึดแนวทางสายกลาง
ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น เราต้องรู้จักยอมรับในข้อดี และนำข้อดีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุด…ไม่ใช่สักแต่มองข้อเสียของอีกฝ่าย แล้วจ้องกล่าวหาโจมตีอีกฝ่าย นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ใดกับตัวเอง ยังทำให้ตัวเองทุกข์ใจ และทำสังคมสับสน
บ้านเมืองที่ปรองดองกันไม่ได้ เพราะคิดทำกันแบบนี้ใช่หรือไม่… คงคิดกันได้
เครดิต: ไทยรัฐ